+การหลบหนีความจริงที่โหดร้าย แล้วเดินเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการของเด็กๆ ใช่ว่าจะมาพร้อมกับความสนุกสนาน หรือว่าความเพลิดเพลินเสมอไป หลายๆครั้งอาจจะเป็นการเดินทางไปสู่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า หรือว่าจักต้องพบกับบทสรุปอันแสนเศร้าก็ตามที . .
+ไม่ใช่เด็กทุกคนหรอกที่จะได้พบกับเรื่องราวในแบบ The Chronicles Of Narnia หรือว่า Bridge To Terabithia และกับโอฟิเลียใน El Laberinto Del Fauno หรือ Pan's Labyrinth ก็คือเด็กสาวธรรมดาที่ไม่ได้พกโชคดีมาเต็มกระเป๋าเหมือนกับเหล่าเด็กๆ จากวรรณกรรมเรื่องอื่นๆอีกหลายต่อหลายคน . . .
+จากชีวิตในเมือง "โอฟีเลีย" ที่ลุ่มหลงอยู่กับโลกในหนังสือนิทาน มีอันต้องย้ายตามคาร์เมนผู้เป็นแม่ ที่กำลังท้องแก่มายังค่ายทหารชั่วคราว ที่ใช้เป็นฐานต่อสู้กับกองกำลังปฏิวัติที่ถูกตีร่นเข้ามาอยู่ในเขตป่า โดยมี "ผู้การวิดัล" สามีใหม่ของแม่เป็นผู้บัญชาการ
+ซึ่งเห็นได้ชัดว่า นอกจากจะคาดหมายว่าลูกในท้องคาร์เมนจะต้องเป็นชาย แบบไม่เผื่อใจว่าอาจจะไม่ใช่ และที่สำคัญผู้การวิดัลก็ดูจะไม่
โปรดโอฟีเลียสักเท่าไหร่ . . .
+นอกจากจะแพ้ท้องหนัก และการเดินทางที่ไม่สะดวกสบาย ทำให้คาร์เมนต้องนอนซมอยู่กับเตียง ในขณะเดียวกัน การคลอดก็อาจจะมีปัญหา ทำให้โอฟีเลียยิ่งเหมือนถูกทอดทิ้งหนักเข้าไปใหญ่ . . แต่แล้วเธอก็ได้พบกับ "เมอร์ซีเดส" แม่บ้านผู้อารี และ "ฟอน" (หรือ แพน ในภาษาอังกฤษ) ตัวประหลาดมีเขา ผู้ซึ่งเชื่อว่าโอฟีเลียคือเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรใต้ดิน ที่ราชาผู้ครองอาณาจักรกำลังรอคอยวันกลับมา . .
+และเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงจริงๆ โอฟีเลียต้องทำภาระกิจ 3 อย่างให้เสร็จสิ้น ไม่เช่นนั้นเธอก็จะไม่ได้เดินทางกลับไปยังอาณาจักรใต้ดิน ไม่ได้พบพ่อ และไม่ได้เป็นเจ้าหญิงอย่างที่ใครๆ คาดเอาไว้ . . .
+ขณะที่โอฟีเลียต้องทำภาระกิจในโลกแห่งจินตนาการที่ดูจะน่ากลัว และโหดร้ายมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในชีวิตจริงเธอก็ต้องพบกับความจริงที่ทวีความรุนแรงขึ้นไม่แพ้กัน หนทางเดียวที่จะช่วยลืมความจริงอันโหดร้าย และปราศจากความสุขได้ นั่นก็คือการเดินหน้าต่อไป และทำภาระกิจในโลกจินตนาการให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์
+แม้จะเต็มไปด้วยภาพความมหัศจรรย์ไม่ต่างไปจากภาพยนตร์ที่มีเรื่องราวคล้ายๆ กันนี้
อีกหลายๆเรื่อง แต่โลกในจินตนาการของกิลเลอร์โม่ เดลโทโร่ กลับเป็นสีสันอีกด้านหนึ่งของเรื่องราวเหล่านั้น . . โลกในจินตนาการของโอฟีเลียไม่ได้สดใส หรือดูสนุกสนานอย่างที่คิด หากแต่ดูน่าขยะแขยง น่าหวาดกลัว ไม่ต่างไปจากโลกแหวะๆในหนังเขย่าขวัญด้วยซ้ำ . .
+ซึ่งแม้จะน่าหวาดหวั่นขนาดไหน แต่นี่ก็เป็นเพียงทางออกเดียวที่จะช่วยกลบความทุกข์ใจในโลกจริงๆได้ อย่างน้อยกับชีวิตจริงๆ ที่มีคนอย่างผู้การวิดัล ที่เป็นตัวแทนของความเผด็จการสมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการเป็นเจ้าชีวิตของเธอ เป็นหัวหน้าครอบครัว . .
+โลกในจินตนาการที่มีฟอนเป็นตัวประหลาด ท่าทางน่ากลัวเป็นผู้ชี้ทางซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากผู้บงการชีวิตของเธอเช่นกัน ก็ยังพอมีความหวังอันแสนสุข หากเธอสามารถทำภาระกิจลุล่วงไปได้ โอฟีเลียก็อาจจะกลายเป็นเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรใต้ดินได้จริงๆ . . .
+บทของเดลโทโร่เล่าเรื่องคู่ขนานระหว่างโลกในจินตนาการ กับโลกในความเป็นจริงของโอฟีเลียได้อย่างลงตัว และในหลายๆครั้งก็สามารถซ้อนทับเข้าด้วยกันได้อย่างพอดิบพอดี โดยมีนัยบางอย่างแฝงอยู่ . .
+อย่างในภาระกิจครั้งแรก ที่โอลีเฟียต้องไปเอากุญแจมาจากร่างของกบยักษ์ เรื่องราวในตอนนี้เดินไปพร้อมกับการออกตามหาพวกปฏิวัติของผู้การวิดัล ขณะที่โอลีเฟียค้นพบกุญแจอย่างที่ฟอนต้องการ ผู้การวิดัลก็ค้นพบหลอดยาปฏิชีวนะ ที่กลายมาเป็นกุญแจไขปริศนาบางอย่างในตอนท้ายเช่นกัน และเมื่อโลกทั้งสองตัดมาบรรจบพบกัน เรื่องราวก็เดินมาถึงบทสรุปสุดท้ายพอดี . . .
+นอกจากนี้เอง กับตัวบทก็แฝงสัญลักษณ์ และนัยต่างๆเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกุญแจ ซึ่งถูกนำมาใช้หลายครั้ง , ยานอนหลับ ซึ่งถูกย้ำไม่แพ้กันว่านี่คือสิ่งที่ช่วยให้หลีกหนีความเจ็บปวดได้ในโลกของผู้ใหญ่ . . และที่น่าสนใจยิ่งกว่า
ก็คือนัยที่มาพร้อมกับลักษณะของตัวละคร เช่น ฟอน คือผู้บงการชีวิตของโอฟีเลียในโลกจินตนาการ , ผู้การวิดัลคือผู้บงการชีวิตของโอฟีเลียในโลกแห่งความเป็นจริง . .
+อย่างที่ว่าไว้ข้างต้น โอฟีเลียเองก็ไม่ต่างอะไรไปจากพวกปฏิวัติ ที่ต้องต่อสู้เพื่อปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ ขณะที่ฝ่ายหลังทำด้วยการต่อสู้ ฝ่ายแรกก็คือการที่ต้องทำภาระกิจให้เสร็จสิ้น ในอีกนัยหนึ่งทั้งคู่ต่างก็มีจุดร่วมเดียวกัน ต่างเป็นบุคคลที่ผู้การวิดัลไม่ต้องการในชีวิต แต่จะขจัดให้สิ้นซากเลยก็ทำไม่ได้เช่นกัน . . .
+แม้จะไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง (อย่างที่ผู้ชมหลายๆคนน่าจะเดาได้ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง) แต่ก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด สำหรับตัวละครที่เป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ซึ่งเกิดมาบนโลกในช่วงเวลาที่ทุกอย่างรอบข้าง เต็มไปด้วยความโหดร้าย ไม่ว่าจะผู้คน หรือสังคมรอบกาย กระทั่งแม้ในโลกแห่งจินตนาการ . . ทางออกของเด็กน้อยที่ต้องการใครสักคน มาร้องเพลงกล่อมให้เธอหลับตานอนได้ลง ก็คงจะมีเพียงทางเดียวอย่างที่เห็น . . .
+ถึงจะเป็นสาวน้อยตัวเล็กๆ ที่เป็นนักแสดงรุ่นเด็ก แต่ "ไอวาน่า บาเคโร่" ก็ให้การแสดงที่แข็งแรง หนักแน่น และยอดเยี่ยมสมกับบทที่ต้องพาหนังไปข้างหน้า ตลอดจนทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของเรื่อง หากบาเคโร่ทำไม่ได้ Pan's Labyrinth ก็อาจจะดูกร่อยๆ และไม่สามารถสร้างความรู้สึกอะไรในตอนท้ายได้อย่างที่เป็น . . ขณะที่ "แซร์กี โลเปซ" ก็ทำให้ผู้การวิดัลเป็นสัตว์ประหลาด ที่ทำให้การพยายามหนีให้พ้นจากโลกแห่งความจริงของโอฟีเลียดูจริงจัง หนักแน่น และมีน้ำหนักมากขึ้น . . .
+นอกเหนือไปจากความแข็งแรงในส่วนของเนื้อเรื่อง และบทภาพยนตร์แล้ว ในงานส่วนโปรดัคชั่นของ Pan's Labyrinth ก็ถือเป็นจุดแข็งอีกจุดหนึ่งที่มิอาจมองข้ามได้ แม้จะชวนให้นึกถึงในหลายๆอย่างที่เคยเห็นใน Hellboy ก็ตาม . . โดยเฉพาะในโลกจินตนาการของโอฟีเลีย ที่ถึงจะมีความมหัศจรรย์ และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ตระการตา หากก็มาพร้อมกับความพรั่นพรึง เสมือนฝันร้ายในอารมณ์ที่เป็นตรงกันข้ามกับ Alice In Wonderland
+หรืออาจจะทำให้นึกถึงหนังที่เอานิทานอย่าง Snow White And Seven Dwarfs ซึ่งแสดงนำโดยซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ เมื่อหลายปีก่อนมาบอกเล่า ที่เน้นความสมจริงสมจังลงไป แต่ต่างจาก Pan's Labyrinth ตรงในแง่ของเรื่องราวที่เล่น ประเด็น และการนำเสนอ . . .
+กับ Pan's Labyrinth ถือเป็นงานที่ "ได้" และ "ถึง" จนทำให้รู้สึกว่า Blade 2 หรือว่า Hellboy งานชิ้นก่อนหน้านี้ของเดลโทโร่ เป็นแค่แบบฝึกหัดในการทำงานร่วมกับเอฟเฟ็คต์พิเศษเท่านั้น และไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม!? หนังของผู้กำกับคนนี้ เรื่องนี้ ถึงได้กวาดรางวี่ รางวัลจากสถาบันต่างๆมามากมาย . .
+นี่คือนิทานผู้ใหญ่ สำหรับผู้ใหญ่ที่ยังมีจินตนาการ และไม่ใช้การ "เมา" เป็นเครื่องมือในการหลบลี้หนีกรรมวาระในโลกแห่งความจริงค่ะ . . .
ดูหนังออนไลน์ [Hi-Def] [HD มาสเตอร์] Pan's Labyrinth แพนส์ แลบิรินส์ : อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต
Post a Comment