ห่างหายไปจากจอเงิน 6 ปีแล้วบอนด์ก็กลับมาโดยได้ Pierce Brosnan สวมบทบาทไป ซึ่งแนวหนังของบอนด์ก็เรียกได้ว่าเป็นลูกผสมที่เข้าท่าเลยครับ เพราะได้รสชาติหนังสายลับแบบเก่าๆ มาเข้ากับหนังแอ๊คชั่นแบบใหม่ๆ แล้วก็ไปกันได้ด้วย
หน้าที่บองบอนด์ในครั้งนี้คือตามรอยดาวเทียม โกลเด้นอาย ที่หายไป ซึ่งเจ้าดาวเทียมที่ว่านี่สามารถแปลงเป็นอาวุธร้ายทำลายโลกได้เลยครับ แต่ไม่ได้ทำลายแบบวินาศสันตะโรนะ เพราะมันทำลายทางธุรกิจต่างหากล่ะ จะเป็นไงก็ลองไปดูครับ
Brosnan ยังไม่ค่อยจะเต็มร้อยนักกับบทบอนด์ คือ เขาดูดีครับ แต่อะไรๆ ยังไม่ถึงกับลงตัวนัก อาจเป็นที่ตัวหนังด้วยที่ดูๆ ไปรู้สึกมันยังมีบางอย่างที่ยังไม่ราบรื่น และโทนหนังมันก็แปลกๆอ้ะคับ รู้สึกมันมืดๆ เครียดๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่โทนภาคนี้ค่อนข้างจริงจังครับ แต่ไม่ถึงกับหนักอึ้งอย่างสมัย Dalton ที่พูดนี่ไมได้แปลว่าหนังไม่ดีหรือไม่หนุกนะครับ มันก็มันส์ใช้ได้ เพียงแต่ยังไม่ถึงกับโคตรยอดเท่านั้นเอง
สาวบอนด์ตอนนี้ ก็คือ โปรแกรมเมอร์สาว นาตาย่า ที่ได้ Izabella Scorupco มาแสดง ซึ่งเธอก็ดูดีครับ แต่ยังไม่มีความเด่นอะไร อีกคนที่ออกจะมีลีลาให้จดจำมากกว่าคือ Famke Janssen ในบท ซีเนีย โอนาทอป นักฆ่าสาวจอมโหดที่ค่อนข้างมีเสน่ห์และน่ากลัวทีเดียวครับ ส่วนวายร้ายก็คือ อเล็ค เทรเวลยัน (Sean Bean) ซึ่งก็ไม่เลว
ส่วนเอ็มก็เปลี่ยนคนและเปลี่ยนเพศใหม่ด้วยครับ Judi Dench มารับบทไป ซึ่งป้าแกก็ดูครับ เข้าท่ามากๆด้วย โดยเฉพาะการที่ป้าแกมาวิจารณ์บอนด์ว่าเป็น ไดโนเสาร์รุ่นสงครามเย็น และยังมี Samantha Bond มาเล่นเป็นมิสมันนี่เพนนีคนใหม่ ซึ่งลีลาหมาหยอกไก่ของเธอกับบอนด์ก็ออกดีทีเดียวล่ะครับ ฮาใช้ได้เลย ส่วน Q ก็ยังได้ Desmond Llewelyn เจ้าเก่าที่ยังเรียกเสียงฮาได้อย่างดีตอนที่พี่แกพูดเรื่องอุปกรณ์น่ะ
แล้วบอนด์ภาคนี้ยังเปิดตัว 2 ตัวละครที่จะมีบทบาทในบอนด์ตอนต่อๆ ไป คนแรกก็คือ วาเลนติน ดิมิโทรวิช ซูคอฟสกี้ (Robbie Coltrane) ซึ่งบอนด์เคยไปยิงขาพี่วาเลนตินจนพี่แกต้องถือไม้เท้าไปตลอดชีวิต แต่เขาก็เป็นแหล่งข่าวชั้นดีให้กับบอนด์ อีกคนก็คือ ซีไอเอ แจ๊ค เวด (Joe Don Baker) ที่คงจะมาแทนบทของเฟลิกซ์ ไลเตอร์น่ะครับ
Martin Campbell กำกับและทำออกมาได้ดีครับ แม้บรรยากาศจะเครียดไปบ้าง แต่ก็สนุกไม่เลว ช่วงกลางๆ อดไปนิด แต่โดยรวมๆ ก็เป็นการกลับมาที่เข้าท่ามากๆ ของบอนด์
ก้าวแรกของยุคใหม่ ไปได้สวย
หน้าที่บองบอนด์ในครั้งนี้คือตามรอยดาวเทียม โกลเด้นอาย ที่หายไป ซึ่งเจ้าดาวเทียมที่ว่านี่สามารถแปลงเป็นอาวุธร้ายทำลายโลกได้เลยครับ แต่ไม่ได้ทำลายแบบวินาศสันตะโรนะ เพราะมันทำลายทางธุรกิจต่างหากล่ะ จะเป็นไงก็ลองไปดูครับ
Brosnan ยังไม่ค่อยจะเต็มร้อยนักกับบทบอนด์ คือ เขาดูดีครับ แต่อะไรๆ ยังไม่ถึงกับลงตัวนัก อาจเป็นที่ตัวหนังด้วยที่ดูๆ ไปรู้สึกมันยังมีบางอย่างที่ยังไม่ราบรื่น และโทนหนังมันก็แปลกๆอ้ะคับ รู้สึกมันมืดๆ เครียดๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่โทนภาคนี้ค่อนข้างจริงจังครับ แต่ไม่ถึงกับหนักอึ้งอย่างสมัย Dalton ที่พูดนี่ไมได้แปลว่าหนังไม่ดีหรือไม่หนุกนะครับ มันก็มันส์ใช้ได้ เพียงแต่ยังไม่ถึงกับโคตรยอดเท่านั้นเอง
สาวบอนด์ตอนนี้ ก็คือ โปรแกรมเมอร์สาว นาตาย่า ที่ได้ Izabella Scorupco มาแสดง ซึ่งเธอก็ดูดีครับ แต่ยังไม่มีความเด่นอะไร อีกคนที่ออกจะมีลีลาให้จดจำมากกว่าคือ Famke Janssen ในบท ซีเนีย โอนาทอป นักฆ่าสาวจอมโหดที่ค่อนข้างมีเสน่ห์และน่ากลัวทีเดียวครับ ส่วนวายร้ายก็คือ อเล็ค เทรเวลยัน (Sean Bean) ซึ่งก็ไม่เลว
ส่วนเอ็มก็เปลี่ยนคนและเปลี่ยนเพศใหม่ด้วยครับ Judi Dench มารับบทไป ซึ่งป้าแกก็ดูครับ เข้าท่ามากๆด้วย โดยเฉพาะการที่ป้าแกมาวิจารณ์บอนด์ว่าเป็น ไดโนเสาร์รุ่นสงครามเย็น และยังมี Samantha Bond มาเล่นเป็นมิสมันนี่เพนนีคนใหม่ ซึ่งลีลาหมาหยอกไก่ของเธอกับบอนด์ก็ออกดีทีเดียวล่ะครับ ฮาใช้ได้เลย ส่วน Q ก็ยังได้ Desmond Llewelyn เจ้าเก่าที่ยังเรียกเสียงฮาได้อย่างดีตอนที่พี่แกพูดเรื่องอุปกรณ์น่ะ
แล้วบอนด์ภาคนี้ยังเปิดตัว 2 ตัวละครที่จะมีบทบาทในบอนด์ตอนต่อๆ ไป คนแรกก็คือ วาเลนติน ดิมิโทรวิช ซูคอฟสกี้ (Robbie Coltrane) ซึ่งบอนด์เคยไปยิงขาพี่วาเลนตินจนพี่แกต้องถือไม้เท้าไปตลอดชีวิต แต่เขาก็เป็นแหล่งข่าวชั้นดีให้กับบอนด์ อีกคนก็คือ ซีไอเอ แจ๊ค เวด (Joe Don Baker) ที่คงจะมาแทนบทของเฟลิกซ์ ไลเตอร์น่ะครับ
Martin Campbell กำกับและทำออกมาได้ดีครับ แม้บรรยากาศจะเครียดไปบ้าง แต่ก็สนุกไม่เลว ช่วงกลางๆ อดไปนิด แต่โดยรวมๆ ก็เป็นการกลับมาที่เข้าท่ามากๆ ของบอนด์
ก้าวแรกของยุคใหม่ ไปได้สวย
Post a Comment